การตรวจสอบแบบ NDT ย่อมาจาก Non-Destructive Testing เป็นการทดสอบถังน้ำมัน ถังแก๊ส รวมถึงอุปกรณ์ในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อตรวจหารอยรั่ว รอยแตก และข้อบกพร่องภายนอก เป็นการทดสอบแบบไม่ทำลายเพื่อให้อุปกรณ์นั้น ๆ สามารถดำเนินงานได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอันตรายต่อพื้นที่โดยรอบ
ซึ่งผู้ที่จะสามารถตรวจสอบแบบ NDT ได้นั้น ควรได้รับการอบรม NDT และผ่านการทดสอบจนได้รับการรับรอง
วิธีการทดสอบ Non-Destructive Testing ยอดนิยมที่สอนในการอบรม
- การตรวจสอบโดยวิธีพินิจ (Visual Testing : VT)
เป็นการตรวจชิ้นงานหรือแนวเชื่อมของชิ้นงานเพื่อหาความผิดปกติ รอยร้าว รั่ว หรือรอยอื่น ๆ ด้วยสายตา ในบางกรณีจะมีการใช้อุปกรณ์ร่วมเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่สามารถตรวจสอบด้วยตาเปล่าได้ แต่จะไม่มีการรื้อถอนหรือทำลายโครงสร้างของอุปกรณ์เพื่อตรวจสอบ - การทดสอบด้วยสารแทรกซึม (Liquid Penetrant Testing : PT)
เป็นการทดสอบโดยทาของเหลวย้อมสีที่มีคุณสมบัติแทรกซึมเข้าไปในบริเวณที่คาดว่าจะมีรอยร้าวหรือรูรั่วเล็ก ๆ ก่อนจะใช้สารเคมีพ่นทับและสังเกตการแสดงผลลัพธ์ - การทดสอบด้วยสนามแม่เหล็ก (Magnetic Particle Testing : MT)
เป็นวิธีการวัดรอยพร่องของผิววัตถุโดยการใช้การเหนี่ยวนำจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้า วิธีทดสอบคือการโรยผงเหล็กยอมสีลงบริเวณที่ทดสอบ จากนั้นนำอุปกรณ์สร้างสนามแม่เหล็กมาทดสอบ หากวัตถุที่ต้องการตรวจสอบมีรอยรั่ว ผงเหล็กในบริเวณดังกล่าวจะเกาะกันเป็นแนวเส้นตามรอยร้าว - การทดสอบด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasonic Testing : UT)
เป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงตรวจสอบโดยใช้คลื่นเสียงเพื่อวัดความหนาและค้นหาจุดบกพร่องที่เกิดขึ้นในเนื้อวัสดุ ซึ่งการตรวจ NDT ด้วยวิธีนี้จะช่วยบอกความลึกของรอยความไม่ต่อเนื่องที่เกิดขึ้นได้ - การทดสอบด้วยรังสี (Radiographic Testing : RT)
เป็นการทดสอบโดยการปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่สูงจากแหล่งกำเนิดรังสีผ่านชิ้นงานโดยอาศัยการดูดซับพลังงานของวัสดุที่มีความหนาแน่นไม่เท่ากัน สามารถเก็บฟิล์มแสดงผลลัพธ์เหล่านี้ไว้เป็นหลักฐานและตรวจผลการทดสอบย้อนหลังได้
ระดับการรับรองการตรวจสอบแบบ Non-Destructive Testing
- NDT Level I: ผู้ปฏิบัติงานที่มีความสามารถในการดำเนินการทดสอบภายใต้การดูแลของ Level II หรือ Level III
บทบาทในการปฏิบัติงานจริงนั้นจะเป็นผู้รวบรวมข้อมูลพื้นฐานในการตรวจสอบ เตรียมอุปกรณ์ และตรวจ NDT อุปกรณ์ได้โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับ II และ III ดูแลอย่างใกล้ชิด จะไม่สามารถวิเคราะห์หรือตีความผลลัพธ์ด้วยตนเองได้ - NDT Level II: ผู้ปฏิบัติงานที่มีความสามารถในการตั้งค่าอุปกรณ์ ดำเนินการทดสอบ แปลผลและประเมินผลการทดสอบ
บทบาทในการปฏิบัติงานจริงนั้นเป็นผู้ดำเนินการตรวจ NDT ด้วยตนเอง สามารถเลือกและปรับใช้อุปกรณ์ในการตรวจสอบ รวมถึงอ่านค่าและรายงานผลเองได้ สามารถชี้วัดได้ว่าอุปกรณ์ชิ้นที่ตรวจสอบนั้นมีผลลัพธ์การทำงานเป็นอย่างไร - NDT Level III: ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุด มีความรับผิดชอบในการจัดทำขั้นตอนการทดสอบ ฝึกอบรมและรับรองบุคลากร NDT
บทบาทในการปฏิบัติงานจริงสำหรับคนระดับนี้จะสามารถพัฒนากระบวนการ ฝึกอบรมผู้อื่น และเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจขั้นสูงสุดในกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งการพัฒนาตนให้อยู่ในระดับนี้ได้นั้น ต้องมีความรู้เชิงทฤษฎีและปฏิบัติ ประสบการณ์ที่ครอบคลุมและน่าเชื่อถือ
การเตรียมตัวสำหรับการอบรม NDT
- ความรู้พื้นฐานด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์
การตรวจสอบแบบ NDT เป็นการตรวจสอบที่ต้องใช้การคำนวณและอาศัยหลักการทางฟิสิกส์มาก ความรู้พื้นฐานในด้านนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้รับความรู้ของการตรวจสอบเฉพาะทางแต่ละวิธีได้ง่ายขึ้น - เข้าใจหลักการ NDT แต่ละวิธี
การมีความรู้และความเข้าใจหลักการ ข้อดี-ข้อเสียของวิธีการตรวจสอบแต่ละวิธีเพื่อให้สามารถแยกแยะ เลือกเครื่องมือ และเลือกวิธีการตรวจสอบได้เหมาะสม - ทำความคุ้นเคยกับอุปกรณ์
ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานจริง การปรับตั้งค่า หรือ การบำรุงรักษาเบื้องต้น การฝึกใช้งานจริงกับอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการตรวจสอบในแต่ละวิธีจะช่วยให้เข้าใจความแตกต่างและจุดประสงค์ของการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น